ทันตกรรมเพื่อความงาม (Cosmetic Dentistry)
การสร้างรอยยิ้มที่สวยงาม (Smile makeover) เป็นที่นิยมและยอมรับในปัจจุบัน โดยการผสมผสานและประยุกต์ใช้ทันตกรรมเพื่อความสวยงามประเภทต่างๆในการสร้างสรรให้ฟันของผู้เข้ารับบริการมีความสวยงามได้ตามต้องการ ทั้งขนาด รูปร่าง การเรียงตัว และสีของฟัน โดยนิยมเรียกกันว่า ฮอลีวูด สไมล์ ซึ่งจะหมายถึง การบูรณะฟันให้มีความสวยงามเหมือนกับฟันของดาราฮอลีวูด
ทันตกรรมเพื่อความงามเป็นการช่วยเสริมสร้างบุคลิกภาพที่ดี มีรอยยิ้มสวยสดใสด้วยวิธีดังนี้
การฟอกสีฟัน
ก่อนที่จะพูดถึงเรื่องการฟอกสีฟัน เราต้องรู้ถึงสาเหตุของสีฟันที่เข้มก่อนว่าเกิดจากสาเหตุใด
มีปัจจัยต่างๆ เช่น อายุที่มากขึ้น คราบอาหารและเครื่องดื่ม เช่น ชา กาแฟ คราบบุหรี่ หรืออาจเกิดจากผลข้างเคียงของยาบางชนิด ที่เปลี่ยนสีฟันของเราที่เคยขาว เงางามให้มีสีที่หม่นหมอง มีคราบสีน้ำตาล และทำให้ฟันเหลือง ดังนั้นการฟอกสีฟันจึงเป็นทางเลือกหนึ่งในการแก้ไขปัญหาสีฟันให้มีความขาวและเงางามมากขึ้น
คุณประโยชน์ของการฟอกสีฟัน
- แก้ไขปัญหาฟันที่มีสีคล้ำ สีน้ำตาล สีเหลือง และมีคราบต่างๆบนฟัน ให้มีความขาวมากขึ้น
- สามารถทำได้ในบุคคลทั่วไป
- สามารถปรับปรุงรอยยิ้มให้มีฟันขาว สว่าง เงางาม ช่วยให้ดูสดใสมากยิ่งขึ้น
โดยทั่วไปสีฟันที่เข้มเกิดจาก 3 ลักษณะ คือ
- 1. การเปลี่ยนสีของฟันที่เกิดขึ้นภายในตัวฟัน เกิดจากการดื่มน้ำหรือรับประทานสารที่มีฟลูออไรด์มากเกินไป ทำให้เกิดเป็นลักษณะฟันตกกระ (Fluorosis) หรือการรับประทานยาปฏิชีวนะพวกเตตร้าไซคลิน (Tetracycline) ที่ได้รับมาตั้งแต่อยู่ในครรภ์มารดา รวมทั้งเกิดจากวัสดุอุดฟันที่มีส่วนผสมของโลหะ ฟันที่ตายเนื่องจากถูกกระทบกระแทก ฟันตายหมายถึงฟันที่ไม่มีเส้นเลือดเส้นประสาทมาหล่อเลี้ยงทำให้สีฟันไม่ขาวใสเหมือนฟันธรรมชาติ ซึ่งจะเกิดกับฟันที่ผุมากๆแล้วทิ้งไว้นานๆไม่ได้รักษา หรือฟันที่เคยรักษาคลองรากฟันมาแล้ว สาเหตุดังกล่าวอาจทำให้ฟันเป็นสีเทาดำหรือน้ำตาลเข้มมากๆ ด้วยสาเหตุนี้การฟอกสีฟันจะไม่ค่อยได้ผล แต่ถ้าต้องการฟันขาว ก็สามารถทำได้โดยการทำ Veneer หรือ Facing
- 2. การเปลี่ยนสีของฟันที่เกิดขึ้นภายนอกตัวฟัน ได้แก่ การที่มีคราบหินปูนหรือหินน้ำลาย คราบชา กาแฟ น้ำอัดลม ไวน์แดง หรือแกงเผ็ดต่างๆ การสูบบุหรี่ รวมไปถึงการแปรงฟันที่ผิดวิธี ทำให้มีแผ่นคราบจุลินทรีย์และหินปูนไปเกาะที่ผิวนอกของตัวฟันทีละน้อยจนทำให้ฟันมีสีเหลืองเข้มขึ้น สาเหตุจำพวกนี้แก้ไขได้ไม่ยาก แค่มาขัดฟัน ขูดหินปูน หรือทำ Air Flow หลีกเลี่ยงชา กาแฟ บุหรี่ แปรงฟันให้ถูกวิธี ก็สามารถช่วยได้
- 3. การเปลี่ยนสีของฟันที่เกี่ยวข้องกับอายุ ส่วนของเคลือบฟันจะบางลงเมื่อคนเรามีอายุมากขึ้นทำให้เห็นเนื้อฟันซึ่งอยู่ชั้นในและมีสีค่อนข้างเหลืองชัดเจนขึ้น เป็นกรณีที่ฟันเหลืองตามธรรมชาติแต่เข้มมากกว่าปกติ จะทำการฟอกสีฟันได้ด้วยเจลฟอกสีฟัน โดยทันตแพทย์จะต้องตรวจดูสภาพของเหงือกและฟัน รอยร้าวต่างๆบนตัวฟันและสภาพการรั่วของวัสดุอุดฟัน รวมทั้งจะต้องขูดหินปูนเพื่อทำความสะอาดฟันและลดการอักเสบของเหงือกก่อน
วิธีในการฟอกสีฟันแบ่งเป็น 2 ประเภท คือ
1. In-office bleaching (การฟอกสีฟันในคลินิก)
ฟอกสีฟันขาวระบบซูม! (Zoom! Advanced Power)
รอยยิ้มเป็นสิ่งสำคัญ เพราะสามารถดึงดูดสายตาแก่ผู้พบเห็น รอยยิ้มที่สวยและขาวกระจ่าง สามารถเพิ่มความรู้สึกมั่นใจให้แก่ผู้เป็นเจ้าของ และสร่างความประทับใจให้แก่ผู้พบเห็น เมื่อเวลาผ่านไปและอายุที่มากขึ้น คราบสีจากอาหารต่างๆ เช่น ชา กาแฟ ไวน์แดง น้ำอัดลม หรือ บุหรี่ อาจทำให้สีของฟันที่เคยขาวดูคล้ำเข้มขึ้น การฟอกสีฟันเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่สามารถทำให้ฟันของท่านกลับมาขาวได้อีกครั้ง แต่ทว่ามีวิธีฟอกสีฟันมากมายต่างๆ นานาๆ หากเลือกวิธีที่ไม่ได้มาตรฐาน ผลลัพธ์อาจเป็นที่ไม่น่าพอใจ ซูม!แอดวานซ์พาวเวอร์ จึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจเพราะ...
- รวดเร็วและสะดวกสบาย
- คงความขาวนาน
- เสียวฟันไม่มาก หากมีอาการเสียวมักเป็นชั่วคราว ไม่เกิน 1 วัน
- ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าปลอดภัย ไม่มีอันตรายต่อโครงสร้างของฟัน และมีประสิทธิภาพสูง
- ทำการรักษาทุกขั้นตอนด้วยทันตแพทย์
ตารางการเปรียบเทียบ Zoom! Advanced Power
การฟอกสีฟันระบบซูม! แอดวานซ์พาวเวอร์ เป็นระบบฟอกสีฟันที่ได้รับการพิสูจน์ทางวิทยาศาตร์แล้วว่ามีความปลอดภัย มีประสิทธิภาพสูง เห็นผลเร็ว และขาวนาน เมื่อเทียบกับวิธีการฟอกสีฟันแบบอื่น จึงเหมะมากโดยเฉพาะสำหรับผู้ที่ไม่ค่อยมีเวลา
การฟอกสีฟันระบบซูม! แอดวานซ์พาวเวอร์สามารถทำให้ฟันของท่านขาวขึ้นได้อย่างน่าอัศจรรย์ภายใน 1 ชั่วโมงและหากสามารถดูแลได้อย่างถูกต้องผลลัพธ์ก็อาจยาวนานหลายปี
* ผลลัพธ์อาจเปลี่ยนแปลงไปในแต่ละบุคคล
ฟอกสีฟันขาวระบบเลเซอร์
เทคโนโลยีล่าสุดของการฟอกสีฟันด้วยเลเซอร์ที่คลินิกของเรานั้น เราเลือกเทคโนโลยีจากบริษัท Biolase
เครื่องเลเซอร์ สไมล์นั้นใช้เจลสูตรเฉพาะซึ่งจะมีประสิทธิภาพสูงกับลักษณะคลื่นเลเซอร์ของเครื่อง LaserSmile โดยเฉพาะ ถือเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพให้แก่ขบวนการฟอกสีฟัน
ขั้นตอนของการฟอกสีฟันโดยใช้เครื่องเลเซอร์ สไมล์ ในการรักษานั้นจะไม่ซับซ้อนและสามารถหลีกเลี่ยงความร้อนที่อาจเกิดขึ้นมากเกินไปได้ดีพอๆกับอาการเสียวฟันของผู้เข้ารับการรักษา ดังนั้นผู้เข้ารับการรักษาจะรู้สึกสบาย ปลอดภัยและมีความมั่นใจ
ข้อดีของการใช้เครื่องเลเซอร์ สไมล์ ( LaserSmile) ในการฟอกสีฟัน
- กระบวนการฟอกสีฟันรวดเร็วและนุ่มนวล โดยใช้เวลาในการรักษาแค่ 1 ชั่วโมง
- เจลฟอกสีฟันของเครื่อง LaserSmile นั้นมีประสิทธิภาพในการฟอกสีฟันสูง สืบเนื่องมาจากวิทยาศาสตร์ด้านเคมีที่ก้าวหน้าอย่างมากในปัจจุบัน และสารประกอบที่อยู่ในเจลจะกระตุ้นการทำงานของแสงเลเซอร์
- เครื่องมือฟอกสีฟันนี้จะใช้งานได้รวดเร็ว ง่าย และสามารถติดตั้งเข้ากับชุดทันตกรรม
- รวดเร็วและสามารถเห็นผลลัพธ์ทันทีหลังเข้ารับบริการ โดยใช้เวลาเพียงหนึ่งชั่วโมง
- แสงเลเซอร์ที่ช่วยให้การทำงานสำเร็จภายในเวลาที่น้อยลง
- มีความสะดวกสบาย เนื่องจากไม่ต้องใส่ถาดฟอกสีฟันตอนนอน
- ผ่านการรับรองจาก FDA และ CE
ฟอกสีฟันขาวระบบแสงเย็น (Cold Light)
การฟอกสีฟันโดยการใช้เแสงเย็น (Cold Light) เป็นเทคโนโลยีระบบการใช้แสงเย็นและอุณหภูมิที่ต่ำ และใช้สูตรการฟอกสีฟันที่ได้รับพัฒนาปรับปรุงพิเศษ ทำให้กระบวนการของการฟอกสีฟันเป็นผลและได้ประสิทธิภาพอย่างรวดเร็ว โดยใช้ระยะเวลาการฟอกสีฟันประมาณ 30-60 นาที ไม่ทำลายเคลือบฟัน และไม่ทำให้ฟันเกิดการเสียหาย ข้อดีคือสามารถฟอกสีฟันได้ในระยะเวลาประมาณ 1 ชั่วโมง โดยไม่ต้องนำกลับไปทำทีบ้าน ผลข้างเคียงเฉพาะบางรายอาจทำให้เหงือกมีอาการเจ็บแสบ แดง หรืออักเสบ รวมทั้งอาจทำให้มีอาการเสียวฟัน มากหรือน้อยขึ้นอยู่กับชนิด ความเข้มข้นของสารที่ใช้ รวมทั้งระยะเวลาที่ใช้ฟอกสีฟัน อาการเหล่านี้จะเกิดขึ้นช่วงสั้นๆในขณะที่ทำการฟอกสีฟันซึ่งจะค่อยๆหายไปเมื่อหยุดฟอกสีฟัน
ขั้นตอนการฟอกสีฟันด้วยในคลินิก
- 1. ขั้นตอนการตรวจวินิจฉัยและเทียบสีฟัน
- ทันตแพทย์จะทำการตรวจและทำการเทียบเฉดสีของฟันก่อนรับฟอกสีฟัน
- ผู้เข้ารับบริการบางท่านอาจจำเป็นต้องได้รับการขูดหินปูนและขัดฟันก่อนได้รับการฟอกสีฟันด้วยเลเซอร์และอาจไม่มีความจำเป็นสำหรับผู้ที่มีฟันสะอาดดีแล้ว
- 2. ขั้นตอนการป้องกันเหงือกและบริเวณรอบๆ
- ทันตแพทย์จะทาน้ำยาพิเศษเพื่อปกป้องเหงือกและเนื้อเยื่อบริเวณรอบ ๆ ฟันที่จะทำการฟอกสีฟัน
- 3. การสวมแว่นตาพิเศษเพื่อป้องกันสายตาของผู้เข้ารับบริการ
- 4. ขั้นตอนการป้ายน้ำยาฟอกสีฟัน
- หลังจากฟันได้รับการเป่าแห้งแล้ว ทันตแพทย์จะทำการป้ายน้ำยาฟอกสีฟันลงบนฟัน
- 5. ขั้นตอนการฉายแสงเพื่อกระตุ้นการทำงานของน้ำยาฟอกสีฟัน
- แสงจะช่วยกระตุ้นให้น้ำยาฟอกสีฟันสามารถทำงานได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
- 6. ทิ้งระยะเพื่อให้น้ำยาสามารถทำงานได้อย่างเต็มที่
- 7. ขั้นตอนการทำความสะอาดน้ำยาออกไป
- ทันตแพทย์จะทำการกำจัดน้ำยาฟอกสีฟันและน้ำยาที่ใช้ป้องกันเหงือกออก
- 8. ขั้นตอนการเปรียบเทียบสีฟัน ก่อน-หลัง
- การเปรียบเทียบสีก่อนและหลังการฟอกสีฟันเพื่อให้ผู้เข้ารับบริการสามารถเห็นความแตกต่าง
2. Home Bleaching (การกลับไปฟอกสีฟันเองที่บ้าน)
การฟอกสีฟันโดยการนำน้ำยาฟอกสีฟันกลับไปฟอกสีฟันเองที่บ้าน ภายใต้การควบคุมดูแลของทันตแพทย์ เป็นระยะๆ คนไข้จำเป็นต้องพิมพ์ปาก ทำถาดพลาสติกสำหรับใสสารฟอกสีฟันให้คนไข้เฉพาะราย โดยถาดฟอกสีฟันจะต้องแนบพอดีกับตัวฟันและเหงือก และมีที่ว่างสำหรับใส่เจลฟอกสีฟัน โดยต้องใส่ทิ้งไว้ตลอดคืน นาน 10-15 วัน โดยทั่วไปในระหว่างการฟอกสีฟัน ทันตแพทย์จะนัดกลับมาประเมิณผลสัปดาห์ละ 1 ครั้ง เพื่อพิจารณาปรับความเข้มข้นของสาร และระยะเวลาในการทำแต่ละครั้งให้เหมาะสมต่อไป
คุณประโยชน์ของการฟอกสีฟันแบบทำเองที่บ้าน
- สามารถทำได้เองที่บ้าน
- มีผลข้างเคียงน้อยมาก มีความปลอดภัยสูง
- มีโอกาสเกิดอาการเสียวฟันจากการฟอกสีฟันน้อย
ขั้นตอนของการเข้ารับการจัดทำชุดฟอกสีฟันแบบทำเองที่บ้าน
- 1. ขั้นตอนการตรวจวินิจฉัยความเหมาะสมและการพิมพ์ปากเพื่อทำถาดฟอกสีฟัน
- ทันตแพทย์จะทำการตรวจสภาพฟันและทำการพิมพ์ปากเพื่อทำถาดฟอกสีฟัน
- 2. ขั้นตอนการลองใส่ถาดฟอกสีฟันและคำแนะนำวิธีการใช้
- ทันตแพทย์จะทำการใส่ถาดฟอกสีฟันและทำการปรับแต่งให้มีความพอดีกับช่องปากของผู้เข้ารับบริการ
- ทันตแพทย์จะทำการสอนวิธีการใช้ชุดฟอกสีฟันและวิธีการดูแลรักษาความสะอาด
- 3. ผู้เข้ารับบริการสามารถฟอกสีฟันเองที่บ้านโดยการแต้มน้ำยาบนถาดฟอกสีฟันและสวมใส่ครั้งละประมาณ 5 – 8 ชั่วโมง
ข้อปฏิบัติหลังเข้ารับการฟอกสีฟัน
- 1. ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารและเครื่องดื่มที่ก่อให้เกิดคราบสีบนฟันเช่น การดื่มชา กาแฟ ไวน์แดง รวมถึงการงดสูบบุหรี่ อย่างน้อย 1 สัปดาห์
- 2. การดูแลรักษาความสะอาดอย่างถูกวิธีจะสามารถช่วยรักษาความขาวให้อยู่ได้นานมากขึ้น
- 3. ข้อปฏิบัติหากมีอาการเสียวฟันจากการฟอกสีฟัน
- ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารหรือเครื่องดื่มที่ร้อน เย็นหรือมีความเป็นกรดสูงเกินไป
- การรับประทานยาแก้ปวด เช่น Ponstan สามารถช่วยลดอาการเสียวฟันได้
- การใช้ยาสีฟันที่มีฟลูออไรด์สูงสามารถช่วยลดอาการเสียวฟันได้
- 4. ข้อปฏิบัติหากมีอาการเสียวฟันจากการฟอกสีฟันแบบทำเองที่บ้าน
- กรณีที่เกิดจากการฟอกสีฟันแบบทำเองที่บ้าน ควรลดเวลาในการใส่ถาดฟอกสีฟันลง หรือ ทิ้งช่วงห่างระหว่างการฟอกสีฟันแต่ละครั้งให้มากขึ้น (เช่น หากปกติใส่ถาดฟอกสีฟันครั้งละ 6 ชั่วโมง ก็ควรลดลงให้เหลือเพียง 5 ชั่วโมง หรือในบางกรณีที่ทำทุกวัน ก็ให้ทำวันเว้นวัน เป็นต้น)
- การรับประทานยาแก้ปวด เช่น Ponstan จะช่วยลดอาการเสียวฟันได้
- การใช้ยาสีฟันที่มีฟลูออไรด์สูงจะสามารถช่วยลดอาการเสียวฟันได้
ผลหลังจากการฟอกสีฟันเราไม่สามารถทำนายได้ว่าฟันจะขาวขึ้นมากน้อยเพียงใด ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับส่วนประกอบของฟันของแต่ละบุคคลที่แตกต่างกันออกไปในขณะที่มีการสร้างฟัน
การเคลือบผิวฟัน
การเคลือบผิวฟัน เป็นการนำวัสดุเซรามิกที่มีความบางเป็นพิเศษมาติดบนผิวฟันด้านหน้า ซึ่งสามารถช่วยป้องกันฟันที่มีผิวหน้าสึกกร่อนให้มีความแข็งแรงมากขึ้น รวมถึงช่วยแก้ปัญหาเรื่องรูปร่างหรือสีของฟันที่ไม่สวยงามได้อีกด้วย
เคลือบฟันเทียม Veneer or Facing
เคลือบฟันเทียม หรือ การทำวีเนียร์ Veneer or Facing เป็นทันตกรรมเพื่อความสวยงามที่สามารถใช้เพื่อแก้ไขความผิดปกติของรูปร่างฟัน สีฟัน รวมถึงการเรียงตัวของฟันที่ผิดปกติ (เล็กน้อย) เคลือบฟันเทียม เป็นการฉาบฟันด้วยวัสดุสีเหมือนฟัน สามารถทำได้ด้วยวัสดุ 2 ประเภท ได้แก่ คอมโพสิตเรซิน (Composite Rasin) และ พอร์ซเลน/เซรามิก (Porcelain/Ceramic) โดยมีการกรอแต่งผิวเคลือบฟันในปริมาณที่น้อยมากเพื่อนำวัสดุสีเหมือนฟันมาติดกับผิวด้านหน้าฟัน
เคลือบฟันเทียม เป็นอีกวิธีการหนึ่งที่สามารถแก้ไขสีฟันคล้ำให้ดูเหมือนสีฟันธรรมชาติได้ โดยสูญเสียเนื้อฟันน้อยกว่าการทำครอบฟัน วัสดุที่นิยมนำมาใช้ในงานเคลือบฟันเทียมได้แก่ เซรามิค และคอมโพสิตเรซิน
วัตถุประสงค์ในการทำเคลือบฟันเทียม
- 1. เพื่อปิดช่องว่างระหว่างฟันหน้าหลายๆซี่ ที่ห่างกันเพียงเล็กน้อย
- 2. เพื่อแก้ไขรูปร่างฟันที่ผิดปกติ
- 3. เพื่อรักษาฟันซึ่งเกิดการหักของฟันโดยไม่ทะลุโพรงประสาทฟัน
- 4. เพื่อแก้ไขฟันที่มีเคลือบฟันผิดปกติ
- 5. เพื่อแก้ไขฟันที่มีสีเข้มผิดปกติที่ไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยการฟอกสีฟัน
- 6. เพื่อแก้ไขฟันที่เรียงตัวผิดปกติไม่มาก
คุณสมบัติของเคลือบฟันเทียมแบบคอมโพสิตเรซิน (Composite Resin Veneer)
- 1.เป็นวัสดุที่มีความสวยงามเลียนแบบฟันธรรมชาติ
- 2.มีคุณภาพดี แข็งแรง ทนทาน
- 3.เสียค่าใช้จ่ายถูกกว่าวัสดุพอร์ซเลนหรือเซรามิก
- 4.การซ่อมแซมหรือทำคอมโพสิตเรซินวีเนียร์ใหม่ สามารถซ่อมแซมทดแทนเฉพาะส่วนได้ ด้วยวัสดุคอมโพสิตเรซินชนิดที่ทำในคลินิคได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยไม่ต้องทำวีเนียร์ใหม่ทั้งชิ้น
- 1.มีคุณภาพต่ำกว่าวัสดุ พอร์ซเลนหรือเซรามิค
- 2.เมื่อเวลาผ่านไป วัสดุจะดูดซึมน้ำทำให้วัสดุดูด้าน ไม่มันวาว สีทึบ หรือเปลี่ยนสี
- 3.มีความสามารถในการปิดบังสีฟันคล้ำได้ต่ำกว่า พอร์ซเลน/เซรามิก
คุณสมบัติของเคลือบฟันเทียมแบบพอร์ซเลนหรือเซรามิก (Porcelain/Ceramic Veneer)
- 1.มีความสวยงามเป็นธรรมชาติ เลียนแบบเคลือบฟันมนุษย์ได้ดี
- 2.มีความแข็งแรงทนทานต่อการแตกหักสูง
- 3.ไม่ดูดซึมน้ำ ทำให้ไม่เกิดการเปลี่ยนแปลงสี และมิติ
- 4.ไม่ติดคราบสีต่างๆ เช่น เครื่องดื่มประเภทชา, กาแฟ, น้ำอัดลม, อาหาร, บุหรี่ และแอลกอฮอล์
- 5.ทนทานต่อการสึกกร่อนและการเกิดรอยขีดขวน
- 6.มีความเงางามตลอดอายุการใช้งาน
- 7.พอร์ซเลน หรือเซรามิกวีเนียร์สามารถเข้ากันได้กับเนื้อเยื่อรอบฟัน เนื้อเยื่อที่สัมผัสกับขอบวีเนียร์จะมีสุขภาพที่ดี เนื้อเยื่อเหงือกก็จะมีสุขภาพสมบูรณ์ และเซรามิกมีความเรียบเงาจึงไม่เป็นที่สะสมของคราบจุลินทรีย์ได้ง่าย
- 1.ค่าใช้จ่ายสูงกว่าการใช้วัสดุคอมโพสิตเรซินวีเนียร์
- 2.เวลาในการทำ ใช้เวลาอย่างน้อย 2-3 ครั้งในการรักษา
- 3.ทันตแพทย์ต้องมีประสบการณ์และความชำนาญในการทำงานสูง
- 4.การซ่อมแซมหรือทำเซรามิกวีเนียร์ใหม่จะทำได้ยากและใช้เวลามาก
การตกแต่งและบูรณะฟันด้วยวัสดุเรซินสีเหมือนฟัน
การตกแต่งและบูรณะฟันด้วยวัสดุเรซินสีเหมือนฟัน เป็นการนำวัสดุเรซินที่สามารถเลือกสีให้เหมือนกับฟันของผู้เข้ารับบริการนั้นๆ มาประยุกต์ใช้ในงานทันตกรรมเพื่อความสวยงาม ซึ่งเป็นวิธีการที่มีค่าใช้จ่ายไม่มาก
การตกแต่งและบูรณะฟันด้วยวัสดุเรซินสีเหมือนฟัน
- สามารถนำมาใช้ในการซ่อมแซมฟันที่ผุ
- สามารถนำมาใช้ในการซ่อมแซมฟันที่บิ่นหักเล็กน้อย
- สามารถใช้ในการแก้ไขปัญหาสีของฟันที่ไม่สวยงาม
- สามารถใช้ในการปิดช่องว่างระหว่างฟัน
- สามารถช่วยในการเพิ่มความยาวของฟัน
- สามารถช่วยในการแก้ไขปัญหาเรื่องสีและรูปร่างของฟัน
- ช่วยอำพรางหรือลดความชัดเจนของคราบสีบนฟัน
- สามารถใช้ในการแก้ปัญหาฟันล้มได้ระดับหนึ่ง
- เป็นอีกทางเลือกหนึงในการอุดฟันนอกจาการใช้วัสดุอมัลกัม
- สามารถใช้ในการอุดปิดคอฟันและปกป้องผิวของรากฟันที่โผล่ออกมานอกเหงือกซึ่งมักเกิดจากปัญหาเหงือกร่น
ขั้นตอนการบูรณะฟันด้วยวัสดุเรซิน
- 1. ขั้นตอนการตรวจวินิจฉัยและการเตรียมฟัน
- ทันตแพทย์จะทำตรวจวินิจฉัยแล้วจึงทำการเทียบสีฟันเพื่อที่จะสามารถเลือกใช้สีของวัสดุที่ใกล้เคียงกับสีฟันของผู้ป่วยมากที่สุด
- การขัดและกรอผิวฟันให้มีความหยาบเพื่อให้การติดยึดของวัสดุมีความทนทานมากที่สุด
- 2. ขั้นตอนการใช้วัสดุเรซิน
- การติดวัสดุเรซิน และแต่งรูปให้มีความเหมาะสมกับฟัน
- การฉายแสงเพื่อให้วัสดุแข็งตัว
- การกรอแต่งรูปร่างและการขัดวัสดุให้มีความสวยเงางาม
การบูรณะและตกแต่งฟันด้วยการใช้วัสดุเรซิน เช่นการอุดปิดช่องว่างระหว่างฟันนั้น แทบจะไม่มีการกรอเนื้อฟันออกเลย ดังนั้นวิธีการนี้จึงไม่ก่อให้เกิดการเสียวฟันหรืออาจเกิดขึ้นได้น้อยมาก
วิธีการดูแลรักษา
- ควรทำความสะอาดด้วยการแปรงฟันอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง การแปรงฟันหลังรับประทานอาหารเป็นการเริ่มวินัยที่ดีในการดูแลสุขภาพปากและฟันซึ่งเป็นสิ่งที่ควรปฏิบัติอย่างยิ่ง
- ควรทำความสะอาดด้วยไหมขัดฟันอย่างน้อยวันละ 1 - 2 ครั้ง
- ควรทำการบ้วนปากด้วยน้ำยาผสมฟลูออไรด์ก่อนนอนทุกวัน โดยทำกลั้วน้ำยาและอมไว้ในปากอย่างน้อย 1 นาที และไม่ควรดื่มน้ำหรือรับประทานอาหารภายใน 30 นาทีหลังการบ้วนปาก
- ควรให้ความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเคี้ยวของแข็งบริเวณที่ได้รับการบูรณะตกแต่งฟัน
- ควรพบทันตแพทย์เป็นประจำทุก 6 เดือน
ตัวอย่างรูปผู้ป่วยที่ได้รับการฟอกสีฟันและเปลี่ยนวัสดุฟันด้วยเรซินคอมโพสิต
* ผลลัพธ์อาจเปลี่ยนแปลงไปในแต่ละบุคคล